5 สิ่งที่ควรรู้ เกี่ยวกับดวงจันทร์
👉 สมัครสมาชิก 👈
รับข่าวสาร📢
จาก The Guru First ก่อนใคร
ดวงจันทร์เป็นดาวบริวารหนึ่งเดียวของโลกที่มีบทบาทสำคัญต่อธรรมชาติและชีวิตมนุษย์ เรามองเห็นดวงจันทร์เปลี่ยนแปลงรูปร่างในทุกๆ วัน แถมยังมีอิทธิพลต่อกระแสน้ำและวัฒนธรรมของมนุษยชาติ มาร่วมเรียนรู้ 5 สิ่งสำคัญที่ควรรู้เกี่ยวกับดวงจันทร์กันครับ

เลือกอ่านตามหัวข้อ
จุดกำเนิด
ดวงจันทร์เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ยิ่งใหญ่เมื่อประมาณ 4.5 พันล้านปีก่อน นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าดาวเคราะห์ขนาดใหญ่มาชนกับโลกในยุคแรก ชิ้นส่วนที่แตกออกมารวมตัวกันกลายเป็นดวงจันทร์อย่างที่เราเห็นในทุกวันนี้
พื้นผิวของดวงจันทร์
พื้นผิวของดวงจันทร์เต็มไปด้วยหลุมอุกกาบาตจากการชนของอุกกาบาตในอดีต นอกจากนี้ยังมี “ทะเลจันทร์” ซึ่งเป็นพื้นที่ราบเรียบสีเข้มที่เกิดจากลาวาในอดีต และภูเขาสูงซึ่งเป็นพื้นที่ขรุขระ ดวงจันทร์ไม่มีชั้นบรรยากาศ จึงไม่มีลมและน้ำที่ช่วยลบเลือนร่องรอย
คุณสมบัติพื้นฐาน
ดวงจันทร์มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 3,474 กิโลเมตร หรือราว 1 ใน 4 ของโลก มันไม่มีแสงสว่างในตัวเอง แต่สะท้อนแสงจากดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ใช้เวลาโคจรรอบโลกประมาณ 27.3 วัน ซึ่งเป็นระยะเวลาเดียวกับการหมุนรอบตัวเอง ทำให้เราเห็นเพียงด้านเดียวเสมอ
ความเกี่ยวข้องกับโลก
ดวงจันทร์ไม่ได้เป็นแค่ดาวบริวารที่ลอยอยู่บนฟ้าเท่านั้น แต่ยังมีผลกระทบมากมายต่อโลกและสิ่งมีชีวิตบนโลก ตั้งแต่ธรรมชาติไปจนถึงชีวิตประจำวันของเรา
ดวงจันทร์กับน้ำขึ้นน้ำลง
ดวงจันทร์มีแรงดึงดูดที่ส่งผลต่อมหาสมุทรบนโลก แรงดึงดูดนี้ทำให้เกิดปรากฏการณ์ น้ำขึ้นน้ำลง โดยน้ำในมหาสมุทรจะถูกดึงให้สูงขึ้นในบริเวณที่อยู่ใกล้ดวงจันทร์ และจะลดลงในบริเวณที่อยู่ไกลจากดวงจันทร์
ตัวอย่าง:
- ตอนกลางวัน ในบางพื้นที่ น้ำทะเลอาจขึ้นสูงจนถึงชายหาด
- ตอนกลางคืน น้ำจะลดลงจนเห็นพื้นทรายกว้าง
แรงดึงดูดนี้ยังช่วยรักษาสมดุลของน้ำในมหาสมุทร ซึ่งส่งผลต่อสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในน้ำ เช่น ปลาหรือปู ที่ใช้ช่วงเวลาน้ำขึ้นน้ำลงในการหาอาหาร
ดวงจันทร์ช่วยรักษาแกนโลก
แกนโลกมีการเอียงเล็กน้อย ทำให้โลกมีฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลงตามปี เช่น ฤดูร้อน ฤดูหนาว ดวงจันทร์ช่วยรักษาความเอียงของแกนโลกให้อยู่ในมุมที่เหมาะสม หากไม่มีดวงจันทร์ แกนโลกอาจเปลี่ยนไปมาก ซึ่งจะทำให้ฤดูกาลและสภาพอากาศแปรปรวน
ดวงจันทร์ช่วยสร้างเวลาและปฏิทิน
ในอดีต ผู้คนใช้ดวงจันทร์เป็นเครื่องมือในการบอกเวลา การเปลี่ยนแปลงของรูปร่างดวงจันทร์ในแต่ละคืน เช่น ข้างขึ้น ข้างแรม ช่วยให้มนุษย์ในสมัยโบราณรู้ว่าผ่านไปกี่วันแล้ว และยังเป็นพื้นฐานของการสร้าง ปฏิทินจันทรคติ ที่หลายวัฒนธรรมใช้จนถึงปัจจุบัน

ตัวอย่าง:
- คนไทยใช้วันเพ็ญเดือน 12 ในปฏิทินจันทรคติ เป็นวันลอยกระทง
- ชาวจีนใช้ดวงจันทร์เต็มดวงในเดือนที่ 8 เป็นวันไหว้พระจันทร์
ดวงจันทร์กับวัฒนธรรมและความเชื่อ
ดวงจันทร์ยังมีบทบาทสำคัญเกี่ยวกับวัฒนธรรมและความเชื่อของมนุษย์ หลายคนมองดวงจันทร์เป็นสัญลักษณ์ของความงาม ความสงบ และการเปลี่ยนแปลง เช่น ในวรรณคดีไทย พระจันทร์มักถูกเปรียบเทียบกับความงามของหญิงสาว
ตัวอย่าง:
- ในเทศกาลไหว้พระจันทร์ คนจีนมองว่าดวงจันทร์เต็มดวงเป็นสัญลักษณ์ของความสามัคคีในครอบครัว
- ในนิทานเรื่อง “กระต่ายบนดวงจันทร์” มีการเล่าว่ามีกระต่ายอาศัยอยู่บนดวงจันทร์
การขึ้นและตกของดวงจันทร์
ดวงจันทร์ที่เราเห็นบนท้องฟ้าขึ้นและตกในแต่ละวัน เป็นเพราะโลกของเราหมุนรอบตัวเอง และดวงจันทร์ก็โคจรรอบโลกไปพร้อมกัน กระบวนการนี้ทำให้ตำแหน่งของดวงจันทร์เปลี่ยนไปทุกวัน
ทำไมดวงจันทร์ถึงขึ้นและตก?
ลองนึกถึงโลกที่หมุนรอบตัวเองเหมือนลูกข่าง และดวงจันทร์ที่ค่อยๆ เคลื่อนที่ไปรอบโลกเหมือนเพื่อนที่วิ่งวนรอบลูกข่าง เมื่อโลกหมุนรอบตัวเอง เราที่อยู่บนพื้นโลกก็จะเห็นดวงจันทร์ปรากฏขึ้นที่ขอบฟ้าด้านหนึ่ง (เรียกว่า “ดวงจันทร์ขึ้น”) และหายลับไปทางขอบฟ้าอีกด้านหนึ่ง (เรียกว่า “ดวงจันทร์ตก”)
ตัวอย่าง:
- ตอนเย็น เราอาจมองเห็นดวงจันทร์เริ่มขึ้นทางทิศตะวันออก
- พอตกดึก ดวงจันทร์จะเคลื่อนตัวขึ้นไปบนฟ้า
- ตอนเช้า ดวงจันทร์จะตกทางทิศตะวันตก
ข้างขึ้น-ข้างแรมเกี่ยวข้องอย่างไร?
การขึ้นลงของดวงจันทร์ยังเกี่ยวข้องกับ “ข้างขึ้น-ข้างแรม” หรือรูปร่างของดวงจันทร์ที่เราเห็นในแต่ละวัน ดวงจันทร์จะเริ่มจาก “เดือนใหม่” หรือคืนที่มองไม่เห็นดวงจันทร์เลย (เดือนมืด) แล้วค่อยๆ โตขึ้นจนกลายเป็น “พระจันทร์เต็มดวง” (ข้างขึ้น 15 ค่ำ) จากนั้นจะค่อยๆ ลดลงจนกลับไปเป็นเดือนมืดอีกครั้งในรอบ 29.5 วัน
ตัวอย่างรูปร่างดวงจันทร์:
- ข้างขึ้น 7 ค่ำ: เห็นดวงจันทร์เป็นครึ่งวงกลม

- ข้างขึ้น 15 ค่ำ: เห็นดวงจันทร์เต็มดวง สว่างมาก

- ข้างแรม 8 ค่ำ: ดวงจันทร์เริ่มลดลง เห็นเพียงครึ่งวงกลม

การเข้าใจการขึ้นลงของดวงจันทร์ช่วยให้เรารู้จักธรรมชาติรอบตัว เช่น การดูดวงจันทร์เพื่อบอกเวลาในอดีต หรือการสังเกตน้ำขึ้นน้ำลงที่เกิดจากแรงดึงดูดของดวงจันทร์
สรุป
ดวงจันทร์ เป็นมากกว่าดาวบริวารที่ลอยอยู่บนฟ้า มันคือเพื่อนเก่าแก่ของโลกที่ช่วยรักษาสมดุลของธรรมชาติ และเป็นแรงบันดาลใจให้มนุษย์ในทุกยุคทุกสมัย ไม่ว่าจะเป็นการช่วยควบคุมน้ำขึ้นน้ำลง การรักษาแกนหมุนของโลก หรือการสร้างความงดงามยามค่ำคืน ดวงจันทร์ยังสอนเราว่า ทุกสิ่งที่ดูเหมือนเรียบง่าย อาจแฝงไปด้วยบทบาทที่ยิ่งใหญ่และสำคัญ
ในแต่ละคืนที่มองขึ้นไปเห็นดวงจันทร์ ลองใช้เวลาสักครู่ขอบคุณความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ และคิดถึงความสัมพันธ์ที่แนบแน่นระหว่างดวงจันทร์ โลก และมนุษย์เรา
ดวงจันทร์เปรียบเสมือนเครื่องเตือนใจว่า แม้สิ่งที่อยู่ไกลออกไป แต่ก็สามารถมีบทบาทที่คอยช่วยเหลือและสนับสนุนเราเสมอได้เช่นกัน เปรียบเสมือนคนรอบข้างที่คอยอยู่เคียงข้างโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เราควรดูแลธรรมชาติและโลกของเราให้ดีที่สุด เช่นเดียวกับที่ดวงจันทร์ดูแลโลกมาตลอด 4.5 พันล้านปี 🌕
อ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติม คลิก
ติดตามครูเฟิร์สใน Facebook Fanpage : ครูเฟิร์ส The Guru First คลิก
พิเศษ!!
สำหรับนักเรียนที่ต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม
สนใจอยากได้เทคนิคคิดเร็ว เก่งไว เข้าใจง่าย เรียนแบบเน้น ๆ เจาะแนวข้อสอบที่เจอบ่อย เจอแน่!! ขอแนะนำ คอร์สออนไลน์ ของ The Guru First ไม่ว่าจะเป็น คอร์สออนไลน์ หรือ คอร์สสอนสด เลือกเรียนตามความต้องการได้เลยครับ
กำลังมีคำถามอยู่หรือเปล่าครับ ?
References
- https://th.wikipedia.org/wiki/ดวงจันทร์
- https://thaiastro.nectec.or.th/library/article/what-would-happen-if-earth-axial-inclination-decreasing/
- https://www.nsm.or.th/nsm/th/node/5903
- https://www.trueplookpanya.com/knowledge/content/68024
- https://th.wikipedia.org/wiki/ปฏิทินจันทรคติ
- https://www.scimath.org/lesson-earthscience/item/11001-2019-10-28-07-12-15