วงจรชีวิตของดาว เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป คือสัจธรรม

ดวงดาวสามารถคงอยู่ได้นานถึงหลายพันล้านปี แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกมันจะเป็นอมตะ นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตของดาวฤกษ์โดยเฉลี่ยดวงหนึ่ง ซึ่งมีมวลเริ่มต้น 0.5 ถึง 8 เท่าของดวงอาทิตย์

เนบิวลาดาวฤกษ์

ดาวทุกดวงมาจากเนบิวลาดาวฤกษ์ซึ่งเป็นกลุ่มเมฆก๊าซไฮโดรเจนในอวกาศ ที่ถูกดึงเข้าหากันด้วยแรงโน้มถ่วงของมันเองก่อตัวเป็นแกนกลางที่ร้อนจนกลายเป็นดาวฤกษ์

ดาวดวงใหม่

ดาวฤกษ์สามารถคงตัวได้เป็นเวลานาน โดยระยะเวลาที่พวกมันจะคงตัวอยู่นั้นขึ้นอยู่กับมวลของมัน ดาวฤกษ์ที่มวลมากก็จะเผาผลาญพลังงานได้มาก อายุก็จะสั้นลง ในขณะที่ดาวฤกษ์มวลน้อยอาจคงอยู่ได้นานถึง 100,000 ล้านปี

ดาวยักษ์แดง

เมื่อดาวเข้าสู่ช่วงท้ายของวงจรชีวิต มันจะกลายเป็นดาวยักษ์แดงเนื่องจากแกนไฮโดรเจนของมันถูกเปลี่ยนเป็นฮีเลียมอย่างสมบูรณ์ เมื่อแรงโน้มถ่วงในดาวมีค่าน้อยกว่าแรงที่ดันที่เกิดจากการขยายตัวจะเกิดการระเบิดขึ้นที่เรียกว่า Supernova หลังการระเบิดดาวฤกษ์มวลมากจะกลายเป็นหลุมดำหรือดาวนิวตรอน ส่วนดาวฤกษ์ที่มีขนาดเล็กกว่า จะไม่ระเบิด แต่จะหดตัวเป็นดาวแคระขาว (White dwarf) หรือ เนบิวลาดาวเคราะห์ (Planetary nebulae)

เนบิวลาดาวเคราะห์

เมื่อดาวฤกษ์ใกล้จะตาย มันจะกลายเป็นเนบิวลาดาวเคราะห์ซึ่งประกอบด้วยกลุ่มก๊าซและฝุ่นในอวกาศ มีเนบิวลาดาวเคราะห์ประมาณ 10,000 ดวงในกาแลคซี

ดาวแคระขาว

ดาวแคระขาวเป็นดาวฤกษ์ที่ตายแล้วเนื่องจากเชื้อเพลิงหมด แม้ว่าพวกมันจะปล่อยพลังงานออกมาเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย แต่ก็ใช้เวลาประมาณหลายพันล้านปีในการระบายความร้อน สิ่งนี้เป็นหนึ่งในกลุ่มของสสารที่หนาแน่นที่สุดที่เรารู้จักในปัจจุบัน

การศึกษาวัฏจักรดาวฤกษ์ยังคงเป็นรากฐานสำคัญของการวิจัยทางดาราศาสตร์ฟิสิกส์ กระตุ้นให้เกิดความอยากรู้อยากเห็นและเป็นแรงบันดาลใจในการสำรวจจักรวาล การคลี่คลายความลึกลับของวิวัฒนาการของจักรวาลและต้นกำเนิดขององค์ประกอบต่าง ๆ ก็จะช่วยให้เราเข้าใจพื้นฐานของชีวิตและการดำรงอยู่ของเราได้ดียิ่งขึ้นนั่นเองครับ

อ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติม คลิก

ติดตามครูเฟิร์สใน Facebook Fanpage : ครูเฟิร์ส The Guru First คลิก