ประเภทของสาร (ฉบับย่อ เข้าใจง่าย)

👉 สมัครสมาชิก 👈

รับข่าวสาร📢
จาก The Guru First ก่อนใคร

ลงชื่อ อีเมล สมัครสมาชิก TGF

สาร คือ สิ่งที่มีมวลและปริมาตร ไม่ว่าจะเป็นของแข็ง ของเหลว หรือแก๊ส ทุกสิ่งรอบตัวเราล้วนเป็นสาร ซึ่งสารสามารถแบ่งออกได้หลากหลายประเภทตามลักษณะและขนาดของอนุภาคของมัน

ประเภทของสารรอบตัวเรา

ใช้ลักษณะเนื้อสารเป็นเกณฑ์

สารเนื้อเดียว (Homogeneous Substance)

สารที่มีเนื้อเป็นเนื้อเดียวกัน เช่น ทองคำ น้ำบริสุทธิ์ หรือน้ำตาลทราย เมื่อแบ่งสารเหล่านี้ออกเป็นส่วนๆ แต่ละส่วนจะมีสมบัติเหมือนกันหมด

สารเนื้อผสม (Heterogeneous Substance)

สารที่ประกอบด้วยสารตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้นไปผสมกัน แต่ละส่วนมีสมบัติแตกต่างกัน เช่น น้ำโคลน (น้ำ + ดิน) หรือ น้ำเชื่อม (น้ำ + น้ำตาล)

ใช้ขนาดของอนุภาคของสารเป็นเกณฑ์

สารละลาย (Solution)

สารเนื้อเดียวที่เกิดจากสาร 2 ชนิดขึ้นไปรวมกัน อนุภาคของสารละลายในของเหลวมีขนาดเล็กกว่า 1 นาโนเมตร เช่น น้ำเกลือ (น้ำ + เกลือ) น้ำเชื่อม (น้ำ + น้ำตาล)

คอลลอยด์ (Colloid)

สารเนื้อผสมที่มีอนุภาคของสารแขวนลอยขนาด 1-1000 นาโนเมตร เช่น นม (น้ำ + ไขมัน + โปรตีน) วุ้น หรือเยลลี่

สารแขวนลอย (Suspension)

สารเนื้อผสมที่มีอนุภาคของสารแขวนลอยขนาดใหญ่กว่า 1000 นาโนเมตร เห็นได้ด้วยตาเปล่า เช่น น้ำโคลน น้ำแป้ง หากทิ้งไว้จะตกตะกอน

การจำแนกสารช่วยให้เราเข้าใจสมบัติของสารได้ดีขึ้น และสามารถเลือกใช้สารได้เหมาะสมกับงาน เช่น เลือกใช้คอลลอยด์อย่างเยลลี่ในการทำขนมวุ้น หรือระวังไม่ให้น้ำแป้ง (สารแขวนลอย) ตกตะกอนขณะทำอาหาร

วิธีการแยกสารเนื้อเดียวและสารเนื้อผสม

สารเนื้อเดียวและสารเนื้อผสมมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน แต่บางครั้งการแยกแยะด้วยตาเปล่าอาจทำได้ยาก ในทางวิทยาศาสตร์จึงใช้เทคนิคต่างๆ ในการแยกสารเหล่านี้

การแยกสารเนื้อเดียว

โดยทั่วไป ไม่สามารถแยกสารเนื้อเดียวด้วยวิธีทางกายภาพได้ เพราะทุกส่วนของสารมีสมบัติเหมือนกันหมด แต่หากต้องการแยกองค์ประกอบของสารเนื้อเดียว เช่น แยกธาตุในสารประกอบ สามารถใช้วิธีทางเคมีได้ เช่น:

  • การแยกด้วยไฟฟ้า: ใช้กระแสไฟฟ้าแยกสารประกอบออกเป็นธาตุ เช่น แยกน้ำ (H₂O) เป็นก๊าซไฮโดรเจนและออกซิเจน
  • การรีดักชัน: ใช้ธาตุที่ว่องไวกว่าแทนที่ธาตุในสารประกอบ เช่น ใช้สังกะสีแทนที่ไฮโดรเจนในกรดเกลือ (HCl) เพื่อได้ก๊าซไฮโดรเจน

การแยกสารเนื้อผสม

สารเนื้อผสมประกอบด้วยสารหลายชนิดที่มีสมบัติต่างกัน เราจึงใช้สมบัตินี้ในการแยกสาร:

  • การกรอง: ใช้แยกของแข็งออกจากของเหลว โดยใช้กระดาษกรองที่มีรูพรุนเล็กกว่าอนุภาคของแข็ง เช่น แยกทรายออกจากน้ำ
  • การระเหย: ใช้แยกของแข็งที่ละลายในของเหลว โดยให้ความร้อนจนของเหลวระเหยไป เช่น ระเหยน้ำทะเลเพื่อให้ได้เกลือ
  • การตกผลึก: คล้ายการระเหย แต่ค่อยๆ ลดอุณหภูมิลง เพื่อให้ได้ผลึกที่สวยงาม เช่น การทำสารส้ม
  • การสกัด: ใช้ตัวทำละลายดึงสารที่ต้องการออกมา เช่น ใช้เอทานอลสกัดน้ำมันหอมระเหยจากกลีบกุหลาบ
  • โครมาโทกราฟี: แยกสารผสมโดยใช้ความแตกต่างในการเคลื่อนที่ผ่านตัวดูดซับ เช่น แยกสีในหมึกปากกาด้วยกระดาษกรอง
  • การกลั่น: ใช้จุดเดือดต่างกันแยกของเหลวผสม เช่น กลั่นน้ำมันดิบเป็นแก๊สโซลีน หรือน้ำมันดีเซล
  • การแยกด้วยกรวยแยก: ใช้แยกของเหลวที่ไม่ละลายกัน เช่น แยกน้ำมันกับน้ำ

เทคนิคเหล่านี้ไม่เพียงใช้ในห้องปฏิบัติการ แต่ยังพบในอุตสาหกรรมและชีวิตประจำวันด้วย เช่น การกรองกาแฟ การกลั่นเหล้า หรือการสกัดน้ำมันพืช การเข้าใจวิธีการแยกสารช่วยให้เราเห็นความมหัศจรรย์ของวิทยาศาสตร์ในชีวิตประจำวัน

บทบาทของสารในชีวิตประจำวัน

เราอยู่ท่ามกลางสารนานาชนิด ทั้งในบ้าน ในอาหาร หรือแม้แต่บนใบหน้า สารเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของเรา มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง

สารทำความสะอาด

  • สบู่และผงซักฟอก: มีสารลดแรงตึงผิว ช่วยให้น้ำซึมเข้าเนื้อผ้าได้ดี และยังช่วยให้คราบสกปรกหลุดออกง่ายขึ้น
  • น้ำยาล้างจาน: นอกจากสารลดแรงตึงผิวแล้ว ยังมีสารขจัดคราบมัน ช่วยละลายคราบไขมันบนภาชนะ
  • น้ำยาฟอกขาว: มีคลอรีนหรือไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ช่วยฟอกสีและฆ่าเชื้อโรค

สารในอาหาร

  • เกลือ (โซเดียมคลอไรด์): ไม่เพียงเพิ่มรสชาติ แต่ยังช่วยถนอมอาหารได้
  • ผงชูรส (โมโนโซเดียมกลูตาเมต): เพิ่มรสอูมามิ ทำให้อาหารอร่อยขึ้น
  • กรดซิตริก: พบในมะนาว ช่วยเพิ่มรสเปรี้ยวและป้องกันการเปลี่ยนสีของผักผลไม้
  • ไนเตรต/ไนไตรต์: ใช้ในเนื้อแปรรูป เช่น แฮม เบคอน ช่วยให้สีสวยและป้องกันแบคทีเรีย

สารเคมีในเครื่องสำอาง

  • สารกันแดด: เช่น ออกซิเบนโซน ช่วยดูดซับรังสี UV ป้องกันผิวไหม้
  • สารต้านอนุมูลอิสระ: เช่น วิตามิน C, E ชะลอความแก่ของผิว
  • AHA (กรดผลไม้): เช่น กรดไกลโคลิก ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า ทำให้ผิวขาวใส
  • Retinol (อนุพันธ์วิตามิน A): กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดริ้วรอย

สารเหล่านี้มีทั้งข้อดีและข้อควรระวัง เช่น ผงชูรสช่วยให้อาหารอร่อย แต่หากใช้มากเกินไปอาจเป็นอันตราย หรือสารกันแดดที่ปกป้องผิวแต่บางชนิดอาจระคายเคือง เราจึงควรศึกษาและเลือกใช้สารอย่างเหมาะสม เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดและปลอดภัยครับ

แหล่งข้อมูล

อ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติม คลิก

ติดตามครูเฟิร์สใน Facebook Fanpage : ครูเฟิร์ส The Guru First คลิก

พิเศษ!!

สำหรับนักเรียนที่ต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม

สนใจอยากได้เทคนิคคิดเร็ว เก่งไว เข้าใจง่าย เรียนแบบเน้น ๆ เจาะแนวข้อสอบที่เจอบ่อย เจอแน่!! ขอแนะนำ คอร์สออนไลน์ ของ The Guru First ไม่ว่าจะเป็น คอร์สออนไลน์ หรือ คอร์สสอนสด เลือกเรียนตามความต้องการได้เลยครับ

กำลังมีคำถามอยู่หรือเปล่าครับ ?

Similar Posts

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *