เทคนิคการเรียน คณิตและ วิทย์ให้เก่ง ตอนที่ 1
วันนี้ครูเฟิร์สจะเล่าวิธีการเรียน คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ ให้เก่ง
ครูเฟิร์สกำลังอ่านหนังสือเล่มหนึ่ง ชื่อ a MIND for NUMBERS แต่งโดย ดร. BARBARA OAKLEY มีเนื้อหาในหนังสือมีที่น่าสนใจเยอะมาก ครูเฟิร์สจะค่อยๆ เล่าให้ฟังไปเป็นตอนๆ นะครับ วันนี้เป็นตอนที่ 1 ครับ
วันนี้จะเล่าเรื่องการทำงานของสมองในด้านการคิด ซึ่งแบ่งได้เป็นสองวิธี คือ
1.Focused- mode thinking (คิดแบบมุ่งเน้น) วิธีนี้เป็นวิธีการสำคัญมากในการเรียน คณิตศาสตร์ และ วิทยาศาสตร์ ที่สิ่งเกี่ยวข้องกับการแก้ไขโจทย์ปัญหา โดยใช้การคิดแบบมีเหตุผล คิดเป็นลำดับขั้นตอน และการวิเคราะห์ การจะคิดแบบนี้ได้ เราต้องมีสมาธิ จดจ่อ หาวิธีการคิดให้ได้ เราก็รู้ว่าถ้าเราไม่ตั้งใจคิดแก้ไขโจทย์ปัญหา เราก็คงทำโจทย์ไม่ได้ แต่บางคนบอกว่า ตั้งใจแล้วก็ยังคิดไม่ได้ แล้วจะทำอย่างไร
ถ้าเราคิดไม่ได้ ก็มาอีกวิธีที่จะช่วยทำให้เราแก้ไขโจทย์ปัญหาได้
2. Diffuse-mode thinking (คิดแบบกระจาย) ก่อนจะอธิบาย ว่าคืออะไร ขอกลับไปที่วิธีแรก คือ Focused-mode thinking ก่อนครับ การคิดแบบวิธีแรก เราจะใช้สมองส่วนหน้า ที่เรียกว่า Prefrontal cortex (ไม่ต้องสนใจคำศัพท์ก็ได้ สนว่าเป็นสมองแถวๆ หน้าผากเราก็แล้วกัน) วิธีแรกจะใช้เพียงส่วนเดียวในการคิด ส่วนวิธีที่สอง Diffuse-mode thinking เราจะใช้สมองทั้งหมดคิด
แล้วเราจะใช้สมองเราแบบนี้ได้อย่างไร ครูเฟิร์สจะอธิบายเพิ่มเติมให้นะครับ ก่อนอื่น อยากให้นึกตามครูเฟิร์สนะครับ เราเคยไหมครับที่บ้างครั้งเวลาเราตั้งใจคิดอะไรแล้วเราคิดไม่ออก ไม่ว่าจะเป็นโจทย์ปัญหาคณิต วิทย์ หรือแม้แต่เรื่องในชีวิตประจำวันที่เรา คิดเท่าไร ก็คิดไม่ออกว่าจะแก้ไขปัญหาอย่างไร แต่พอเราทำตัวสบายๆ ไปอาบน้ำ ไปเดินเล่น ขับรถเล่น ทำอะไรเพลินๆ ไม่นึกถึงปัญหา ปรากฏว่าอยู่ดีๆ ก็มีไอเดียปิ๊งๆ ขึ้นมาทันที และทำให้เราสามารถแก้ไขปัญหาได้
นั้นแหละครับคือ Diffuse-mode thinking วิธีที่เราจะทำให้เกิดการคิดแบบนี้ได้ เราจะต้องไม่สนใจกับปัญหาเดิมที่เราคิด เช่น การออกกำลังกาย เดินเล่น อาบน้ำ รวมทั้งการเล่นเกมส์ (หนังสือเขียนไว้อย่างนี้จริงๆ ) และอื่นๆ อีกมากมายที่ทำให้เราเพลินๆ
และแน่นอน น้องๆ หลายคนอาจจะยิ้มในใจจะได้ไปอ้างกับผู้ปกครองว่า “ครูเฟิร์สบอกว่าพอคิดไม่ออกให้เล่นเกมส์ หุ หุ”
แต่เดี๋ยวก่อน ครูเฟิร์สยังอธิบายไม่จบ การที่เราจะใช้ Diffuse-mode thinking ได้นั้น เราจะต้องตั้งใจทำโจทย์ที่เราทำไม่ได้ให้มากๆๆๆ (เน้น!!) ทำจนสมองเราทำการสร้างเซลล์ประสาท เชื่อมโยงความคิดแก้ไขปัญหาให้แข็งแรงก่อน ไม่ใช้พอทำโจทย์แล้วพอคิดไม่ได้ก็หาข้ออ้างไปทำอย่างอื่นนะครับ แบบนี้ไม่ได้ช่วยอะไร สุดท้ายแล้ว เราก็คิดไม่ออกอยู่ดีและเราก็จะสอบไม่ผ่านด้วย นะคร้าบๆๆ
ดังนั้นโดยสรุปเราต้องตั้งใจเรียนมากๆ ก่อนครับ ถ้าเราอยากจะเรียนเก่ง ไม่อย่างนั้นแล้ว Diffuse-mode thinking ก็ไม่ได้ช่วยอะไร
เพื่อไม่ให้เนื้อหายาวมาก วันนี้ ครูเฟิร์ส ขอจบไว้ตรงนี้ก่อนแล้วกัน วันหน้าจะมาสรุปเนื้อหาส่วนอื่นเพิ่มเติมให้ ทั้งทำอย่างไรให้เราจำได้ดี ฝึกทำโจทย์อย่างไรทำให้เราจำวิธีทำได้ และแก้ไขปัญหาได้ทุกโจทย์ปัญหา การแก้ไขการผัดวันประกันพรุ่ง เป็นต้น